1) ภาพรวมขั้นตอนการกู้ซื้อบ้าน (แบบย่อ — ทีละขั้น)

1. เลือกบ้าน/ยูนิต และจอง (วางเงินจองตามเงื่อนไขโครงการ)

2. เตรียมเอกสารส่วนตัวและเอกสารแสดงรายได้ (ตามประเภทอาชีพ)

3. ขอใบเสนอราคาจากโครงการ / สัญญาจะซื้อจะขาย (เอกสารที่ธนาคารใช้ประเมิน)

4. ยื่นคำขอสินเชื่อกับธนาคาร (หรือผ่านโบรกเกอร์ของโครงการ) พร้อมส่งเอกสารทั้งหมด

5. ธนาคารตรวจสอบเครดิต ประเมินทรัพย์ (และอายุโฉนด) — นัดประเมินมูลค่าหลังประเมินพื้นที่จริง

6. รอผลอนุมัติ -> นัดเซ็นสัญญาเงินกู้ -> โอนเงินดาวน์/ค่าโอนกรรมสิทธิ์ตามสัญญา -> ทำเรื่องจดจำนอง/โอนกรรมสิทธิ์.  

2) เอกสารที่ต้องเตรียม (แยกตามประเภทผู้ขอกู้)เอกสารพื้นฐาน (ผู้ขอกู้ทุกประเภท)

• บัตรประชาชน (สำเนา)

• ทะเบียนบ้าน (สำเนา)

• ใบสมรส / ใบหย่า / หนังสือรับรองการแยกอยู่ (ถ้ามี)

• Statement บัญชีเงินฝากย้อนหลัง (ตามธนาคารขอ)

• สำเนาหนังสือรับรองโครงการ / สัญญาจะซื้อจะขายจากโครงการ (เอกสารโครงการที่จะใช้เป็นข้อมูลประกอบ).  

กรณีเป็นพนักงานประจำ

• สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 1–3 เดือน (หรือหนังสือรับรองเงินเดือน)

• หนังสือรับรองการทำงาน (ถ้าธนาคารขอ)

• Statement บัญชีเดินฝากย้อนหลัง 6–12 เดือน (บางธนาคาร).  

กรณีอาชีพอิสระ / เจ้าของกิจการ / ฟรีแลนซ์

• บัญชีรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6–12 เดือน

• ทะเบียนการค้า / หนังสือรับรองบริษัท (ถ้ามี)

• ภ.พ.30 / หนังสือรับรองการเสียภาษี / บิลค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง (ตามที่ธนาคารร้องขอ).  

เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์

• โฉนดที่ดิน (หรือเอกสารสิทธิ์) / เอกสารสัญญาจะซื้อจะขาย / ใบเสนอราคาโครงการ / แบบบ้านและรูปถ่ายบ้านตัวอย่าง.  

3) เช็กลิสต์แบบพิมพ์เก็บ (ใช้ยื่นและเตรียมให้ครบ)

• สำเนาบัตรประชาชน (ผู้กู้ + คู่สมรส)

• สำเนาทะเบียนบ้าน

• สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน / หนังสือรับรองเงินเดือน

• Statement ธนาคารย้อนหลัง 6–12 เดือน

• หนังสือรับรองการจ้างงาน (ถ้ามี)

• สำเนาหนังสือรับรองบริษัท / ทะเบียนการค้า (ผู้ประกอบธุรกิจ)

• ใบเสนอราคาจากโครงการ / สัญญาจะซื้อจะขาย / โฉนดที่ดิน (ถ้ามี)

• ใบจอง + ใบเสร็จวางเงินดาวน์ (จากโครงการ)

• สำเนาเอกสารภาษีที่เกี่ยวข้อง (ถ้าธนาคารขอ)

• แบบฟอร์มคำขอสินเชื่อธนาคาร (ธนาคารจะให้เมื่อยื่น).  

4) ระยะเวลาโดยประมาณ & เคล็ดลับให้ผ่านง่ายขึ้น

• ระยะเวลา: ถ้าเอกสารครบ ปกติธนาคารไทยใช้เวลาประเมินและอนุมัติประมาณ 7–30 วันทำการ ขึ้นกับความซับซ้อน (เช่น ต้องตรวจสอบรายได้ผู้ประกอบการ หรือรอดูผลจากการประเมินทรัพย์จริง) — บางเคสเร็วได้ 7–14 วัน แต่บางเคสนานกว่านั้นได้.  

• เคล็ดลับให้ผ่านเร็ว/ผ่านง่าย:

  1. จัดเอกสารให้ครบถ้วนตามรายชื่อก่อนยื่น (ลดการขอเอกสารเพิ่ม).

  2. ลดภาระหนี้ที่ไม่จำเป็นก่อนยื่น (ลดอัตราส่วนหนี้ต่อรายได้ DTI).

  3. จ่ายเงินดาวน์มากขึ้น (ถ้ามี) จะลด LTV และเพิ่มโอกาสอนุมัติ.

  4. มี Statement เงินฝากย้อนหลังที่สม่ำเสมอ และสภาพคล่องชัดเจน (ธุรกิจต้องมีบัญชีเดินจริง).

  5. ขอ “Pre-approval” กับธนาคารหลายแห่งเพื่อเปรียบเทียบดอกเบี้ยและเงื่อนไข.  

   

5) ข้อควรรู้เฉพาะกรณีซื้อกับ “โครงการบ้านมนิดา”

• โครงการ บ้านมนิดา (Manida CNX) มีหน้าเว็บไซต์และเพจโซเชียลที่ให้ข้อมูลแบบบ้าน/ทำเล — เวลายื่นกู้ให้ขอ สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย, ใบเสนอราคา/รายละเอียดแบบบ้าน และสำเนาโฉนด (ถ้าพร้อมโอน) จากโครงการเพื่อให้ธนาคารประเมินทรัพย์ได้ตรง.  

• ถ้าโครงการยังอยู่ในสเตจ “สร้างก่อนขาย” หรือยังไม่โอนกรรมสิทธิ์ทันที ธนาคารจะขอรายละเอียดสัญญาจากโครงการและอาจมีขั้นตอนการประเมินที่ต่างออกไป —

• ควรถามเจ้าหน้าที่โครงการว่า “มีแพ็กเกจสินเชื่อร่วมกับธนาคารใดบ้าง” เพราะบางโครงการมีพาร์ทเนอร์ธนาคารที่ช่วยเร่งขั้นตอนหรือมีเงื่อนไขพิเศษ.  

ตัวอย่างคำถามที่ควรถามโครงการ / เจ้าหน้าที่สินเชื่อก่อนยื่น

• โครงการมี ข้อเสนอสินเชื่อร่วมกับธนาคาร ใดบ้างหรือไม่?

• สัญญาจะซื้อจะขายฉบับที่จะใช้ยื่นกู้มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายใดบ้าง (ค่าส่วนกลาง, ค่าธรรมเนียมโอน)?

• โฉนดพร้อมโอนหรือยัง (ถ้ายัง ธนาคารต้องใช้เอกสารใดเพิ่ม)?

• มีเอกสารรับรองการก่อสร้าง/แผนผัง/รูปถ่ายหน้างานให้ธนาคารตรวจหรือไม่?

สรุปสั้น ๆ (แบบเน้นทำตามได้ทันที)

1. ขอ สัญญาจะซื้อจะขาย + ใบเสนอราคา จากบ้านมนิดา และสำเนาโฉนด (ถ้ามี).  

2. เตรียมเอกสารส่วนตัวตามเช็กลิสต์ด้านบนให้ครบ (สลิป, bank statement ฯลฯ).  

3. ติดต่อธนาคารเพื่อขอ Pre-approval พร้อมยื่นเอกสาร — เปรียบเทียบดอกเบี้ย-ค่าธรรมเนียมจากหลายธนาคาร.  

4. เมื่ออนุมัติ นัดเซ็นสัญญาและดำเนินการโอน/จดจำนองตามขั้นตอน.